IV ปฏิบัติการประเมินหลักสูตร (Curriculum Evaluation)
IV ปฏิบัติการประเมินหลักสูตร
(Curriculum Evaluation)
การปฏิบัติการขั้นการประเมินหลักสูตร (Curriculum
Evaluation) เป็นขั้นตอนการประเมินทั้งหลักสูตรและผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร
ซึ่งสอดคล้องกับคำถามที่สี่ของไทเลอร์ (Tyler) คือประเมินประสิทธิผลของประสบการณ์ในการเรียนอย่างไร
๑.
การทำความกระจ่างชัดในความรู้
การประเมินหลักสูตร
(Curriculum
Evaluation) เป็นกระบวนการเก็บรวบรวมจ้อมูลและการประมวลผลข้อมูลเพื่อนำมาตัดสินใจเกี่ยวกับคุณภาพทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผลของหลักสูตร
ในการประเมินหลักสูตรได้ศึกษาข้อมูล ดังนี้
๑. แนวคิดการประเมินหลักสูตร
๑.๑
แนวคิดการประเมินหลักสูตรของ วิชัย วงษ์ใหญ่ (๒๕๕๔) กำหนดไว้ ๓ ขั้นตอน คือ
๑.๑.๑
การประเมินหลักสูตรก่อนนำหลักสูตรไปใช้ มีขั้นตอนการดำเนินงานดังนี้ ๑) กำหนดจุดมุ่งหมายการประเมินหลักสูตร ๒) วางแผนดำเนินการประเมิน
๓) ทดลองใช้หลักสูตรฉบับร่าง ๔) การประเมินผลจากการทำลองใช้
๑.๑.๒
การประเมินหลักสูตรระหว่างดำเนินการใช้หลักสูตร มีแนวคิดการประเมินไว้ ๓ ประเด็น
คือ ๑) การประเมินระบบบริหารและการจัดการหลักสูตร ๒) การประเมินการจัดกระบวน การเรียนการสอน ๓)
การประเมินระบบบริหารและวิธีการนิเทศกำกับดูแล
๑.๑.๓
การประเมินหลักสูตรหลังนำหลักสูตรไปใช้
๑.๒
แนวคิดการประเมินหลักสูตรของสคริเวน (Scriven, 1976)
ได้เสนอแนวคิดการประเมินหลักสูตรไว้
๒ ประเด็น คือ
๑.๑.๑
การประเมินระหว่างโครงการ (Formative
Evaluation)
๑.๑.๒
การประเมินผลสรุป (Summative
Evaluation)
๑.๓ แนวคิดการประเมินหลักสูตรของแกลทอร์น
(Glatthorn,
2009)
ได้เสนอขั้นตอนการประเมินหลักสูตรเพื่อพัฒนาไว้
๕ ขั้นตอน คือ
๑.๓.๑
การเตรียมประเมินหลักสูตร
๑.๓.๒ ประเมินบริบทของหลักสูตร
๑.๓.๓
กำหนดประเด็นการประเมิน
๑.๓.๔
ออกแบบการประเมินหลักสูตร
๑.๓.๕ นำแบบประเมินไปใช้
๑.๔
แนวคิดการประเมินหลักสูตรเคิร์กแพทริก (Kirkpatrick, 1994)
เสนอการประเมินผลการประเมินการฝึกอบรมซึ่งเป็นการประเมินผลสรุป แบ่งประเมินเป็น ๔ ระดับคือ
ระยะที่ ๑ การประเมินปฏิกิริยา
ระยะที่ ๒ การประเมินการเรียนรู้
ระยะที่ ๓ การประเมินพฤติกรรม
ระยะที่ ๔ การประเมินผลลัพธ์
๑.๕
แนวคิดของเลสเลย์และแกรนท์ (Lesley Southgate and janet Grant,
2005)
ได้เสนอหลักการในการประเมินระบบการฝึกอบรม
สรุปได้ดังนี้
มาตรฐาน ๑ หลักการและเหตุผล
มาตรฐาน ๒ เนื้อหาสาระในการเรียนรู้
มาตรฐาน ๓ แบบจำลองในการเรียนรู้
มาตรฐาน ๔ ประสบการณ์การเรียนรู้
มาตรฐาน ๕ การนิเทศและข้อมูลย้อนกลับ
มาตรฐาน ๖ การจัดการนำหลักสูตรไปใช้
มาตรฐาน ๗ การตรวจทบทวนหลักสูตรและการปรับปรุง
มาตรฐาน ๘ คุณภาพและความหลากหลายรูปแบบ
๒. แบบจำลองการประเมินหลักสูตร
๒.๑ สตัฟเฟิลบีม (Daniel L. Stufflebeam.
1995)
ได้เสนอแนวคิดการประเมินโครงการ ในชื่อว่า CIPP
Model มีขั้นตอนการประเมินดังนี้
๒.๑.๑ การประเมินสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation: C)
๒.๑.๒
การประเมินปัจจัยนำเข้า (Input
Evaluation: I)
๒.๑.๓
การประเมินกระบวนการ (Process
Evaluation: P)
๒.๑.๔
การประเมินผลผลิต (Product
Evaluation: P)
๒.๒ โรเบิร์ต
อี.สเต็ค (Robert
E. Stake, 1995) ได้เสนอรูปแบบการประเมินแบบตอบสนอง
เพื่อการประเมินโครงการทางการศึกษา (Education program evaluation) มีทั้งหมด ๒ ขั้นตอน
๒.๒.๑ การบรรยาย
(Description)
๒.๒.๒ การตัดสินใจ (Judgment)
๓. การประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร
การประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร
(Curriculum
Based Assessment: CBA) เป็น การประเมินประสิทธิภาพของการเรียนการสอนในระบบโรงเรียน
ซึ่งทำให้ผู้เรียนทำกิจกรรมที่ออกแบบให้สอดคล้องกับหลักสูตรที่ใช้
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรมีดังนี้
๓.๑. แบบทดสอบวัดความสามารถตามสภาพจริง
(authentic test)
๓.๒
แบบสังเกตพฤติกรรมในการเรียนรู้
๓.๓
การประเมินการเรียนรู้โดยใช้แฟ้มสะสมงาน
๓.๔
การเกณฑ์การประเมินการเรียนรู้โดยใช้ The SOLO Taxonomy
๒.
การระบุ การได้รับและการเข้าใจข้อมูลใหม่
การประเมินหลักสูตร
(Curriculum
Evaluation) “การเขียนเพื่อการสื่อสาร” อาศัยแนวคิดคำถามข้อที่ ๔
ของ Tyler ที่สรุปได้ว่า
ประเมินประสิทธิ์ผลของประสบการณ์ในการเรียนอย่างไร (Tyler, 1949, p.63) ดังนั้นข้อมูลที่ได้รับจากการประเมินหลักสูตรมีดังนี้
๒.๑ การประเมินหลักสูตร
เป็นการรวบรวมข้อมูลหลักฐานและตัดสินคุณค่าเกี่ยวกับหลักสูตร
คือ การประเมินหลักสูตรทั้งระบบ เลือกใช้แนวคิดการประเมินหลักสูตรของ สตัฟเฟิลบีม
(Daniel
L. Stufflebeam. 1995) ได้เสนอแนวคิดการประเมินโครงการในชื่อว่า CIPP
Model มีขั้นตอนการประเมินดังนี้
ภาพที่ ๒ แบบจำลองการประเมินแบบ CIPP
ที่มา : Daniel L. Stufflebeam
(2007: 333)
๑. การประเมินสภาวะแวดล้อม
(Context Evaluation: C)
เป็นการประเมินโครงการ
มีการพิจารณาหลักการและเหตุผล ความจำเป็นที่ต้องดำเนินโครงการ
การกำหนดประเด็นปัญหา และความเหมาะสมของเป้าหมายโครงการ
๒.
การประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation: I)
เป็นการประเมินโครงการ
มีประเด็นพิจารณา คือ การเลือกแผนงานโครงการ
อันเนื่องมาจากความพร้อมของปัจจัยนำเข้า
โดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของโครงการ ความเหมาะสมและความพอเพียงของทรัพยากรที่จะใช้ในการดำเนินงาน
ได้แก่ งบประมาณ บุคลากร วัสดุอุปกรณ์ เป็นต้น
๓. การประเมินกระบวนการ (Process
Evaluation: P)
เป็นการประเมินโครงการ
มีประเด็นการพิจารณา เพื่อหาจุดเด่นจุดด้อย
และประเด็นที่เป็นข้อบกพร่องของกระบวนการของการดำเนินโครงการ ที่จะใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาแก้ไข
ปรับปรุง ให้การดำเนินการช่วงต่อไปมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการตรวจสอบกิจกรรม
เวลา ทรัพยากร
๔. การประเมินผลผลิต (Product
Evaluation: P)
เป็นการประเมินโครงการ
มีประเด็นการพิจารณาเปรียบเทียบผลผลิตที่เกิดขึ้นจากโครงการทั้งผลตามวัตถุประสงค์ของโครงการหรือมาตรฐานที่กำหนดไว้
รวมทั้งการพิจารณาในประเด็นของการยุบ เลิก ขยาย หรือปรับเปลี่ยนโครงการ
๒.๒ การประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร
การประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร(Curriculum
Based Assessment: CBA) เป็น การประเมินประสิทธิภาพของการเรียนการสอนในระบบโรงเรียน
ซึ่งทำให้ผู้เรียนทำกิจกรรมที่ออกแบบให้สอดคล้องกับหลักสูตรที่ใช้
เลือกเครื่องมือวัดผลการเรียนรู้ ๒ ชนิด คือ
๑.
แบบวัดความสามารถตามสภาพจริง
โดยมีขั้นตอนการพัฒนาแบบทดสอบวัดความสามารถตามสภาพจริง
ดังนี้
๑.๑
กำหนดจุดมุ่งหมายในการสร้างแบบทดสอบ
-
สร้างแบบทดสอบ
-
พัฒนาคุณภาพของแบบทดสอบ
๑.๒ ศึกษาเอกสาร
งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสร้างข้อคำถามและเกณฑ์การให้คะแนน
๑.๓ ศึกษาหลักสูตร
เพื่อกำหนดขอบเขตของเนื้อหา พฤติกรรมที่ต้องการวัด
๑.๔ นิยามขอบเขตของเนื้อหาที่ใช้ประเมินพฤติกรรมที่แสดงออก
๑.๕
กำหนดลักษณะเฉพาะและพฤติกรรมที่ต้องการประเมิน
๑.๖
เขียนข้อความตามนิยามคุณลักษณะและกำหนดเกณฑ์การให้คะแนน
๑.๗
ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพด้านความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา
๑.๘
นำแบบทดสอบไปทดสอบครั้งที่ ๑ กับผู้เรียนที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง
๑.๙
นำผลการทดสอบครั้งที่ ๑ วิเคราะห์หาค่าความยากง่ายและค่าอำนาจจำแนก
โดยพิจารณาค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ ๐.๒๐ ขึ้นไป และค่าความยากง่ายตั้งแต่ ๐.๒๐ - ๐.๘๐
๑.๑๐
นำข้อสอบที่ผ่านเกณฑ์จากการทดสอบครั้งที่ ๑ ไปทดสอบกับผู้เรียนที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างและหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบโดยใช้สูตร
Kuder-Richardson
(K-R 20)
๒. แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้
พัฒนาแบบสังเกตพฤติกรรมการแสดงออกในการเรียนรู้มีขั้นตอนการพัฒนาดังนี้
๒.๑
ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คำนิยามพฤติกรรมของผู้เรียนที่ต้องการสังเกต
๒.๒
นำนิยามคุณลักษณะของผู้เรียนไปให้ ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความเที่ยวตรงเนื้อหา
๒.๓
กำหนดตัวชี้วัดในแต่ละคุณลักษณะ
๒.๔
สร้างเกณฑ์ระดับค่าของตัวชี้วัดในการสังเกตคุณลักษณะของผู้เรียน
๒.๕
นำเกณฑ์ในการสังเกตคุณลักษณะและตัวชี้วัดในแต่คุณลักษณะที่สร้างขึ้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญสาขาวิชาตรวจพิจารณาเกณฑ์ในการสังเกตคุณลักษณะของผู้เรียนและพฤติกรรมที่มุ่งวัดในแต่ละคุณลักษณะที่สร้างขึ้น
๒.๖
นำเกณฑ์ในการสังเกตที่มุ่งวัดในแต่ละด้านไปสร้างแบบสังเกตพฤติกรรม การแสดงออกในการเรียนรู้
๓.
เกณฑ์การประเมินผลการเรียนรู้
เลือกใช้เกณฑ์การประเมินผลการเรียนรู้โดยใช้
The
SOLO Taxonomy เนื่องจากว่าเป็นการประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance
Assessment) ที่มุ่งประเมินศักยภาพของผู้เรียนอันเป็นผลจากการใช้หลักสูตร
โดยมีขั้นตอนดังนี้
การจัดระดับ SOLO
|
คำถามและการตอบสนองที่คาดหวังจากผู้เรียน
|
๑)
ระดับโครงสร้างขึ้นพื้นฐาน (Pre - structural)
|
ผู้เรียนได้รับข้อมูลเป็นส่วน
ๆ ที่ไม่ปะติดปะต่อกันไม่มีการจัดการข้อมูล
|
๒)
ระดับโครงสร้างเดี่ยว (Uni
- structural)
|
ผู้เรียนเชื่อโยงข้อมูลพื้นฐานชนิดเข้าด้วยกัน
ความหมายของความสัมพันธ์
|
๓)
ระดับโครงสร้างหลากหลาย (Muti
- structural)
|
ผู้เรียนเชื่อมโยงข้อมูลหลาย
ๆ ชนิดเข้าด้วยกัน
ความหมายของความสัมพันธ์ระหว่างความเกี่ยวโยงของข้อมูลไม่ปรากฏ
|
๔)
ระดับความสัมพันธ์ของโครงสร้าง
(Relational - level)
|
ผู้เรียนแสดงความสัมพันธ์ของความเกี่ยวโยงของข้อมูลได้นักเรียนแสดงความสัมพันธ์ของความเกี่ยวโยงข้อมูลและภาพรวมได้
|
๕)
ระดับแสดงความต่อเนื่องในโครงสร้างภาคขยาย (Extended Abstract Level)
|
นักเรียนเชื่อมโนงข้อมูลนอกเหนือจากหัวข้อเรื่องที่ได้รับผู้เรียนสามารถและส่งผ่านความสำคัญและแนวคิดที่ซ่อนอยู่ภายใต้กรณีตัวอย่าง
|
๓.
การยืนยันความถูกต้องและการใช้ข้อมูลใหม่
แผนการประเมิน (Evaluation
Plan)
การประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร
|
การประเมินผลหลักสูตร
|
๑.
เครื่องมือวัดผลการเรียนรู้
๑.๑ การประเมินแบบวัดความสามารถตามสภาพจริง
๑.๒ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้
๒.
รูปแบบการประเมิน
เกณฑ์การประเมินผลการเรียนรู้ SOLO
Taxonomy ทั้ง ๕ ระดับ ได้แก่
๑) ระดับโครงสร้างขึ้นพื้นฐาน
(Pre
- structural)
๒) ระดับโครงสร้างเดี่ยว
(Uni - structural)
๓) ระดับโครงสร้างหลากหลาย
(Muti
- structural)
๔) ระดับความสัมพันธ์ของโครงสร้าง (Relational - level)
๕)
ระดับแสดงความต่อเนื่องในโครงสร้างภาคขยาย (Extended Abstract Level)
|
ใช้รูปแบบการประเมิน
สตัฟเฟิลบีม (Daniel L.
Stufflebeam. 2007) มี ๔ ขั้น ได้แก่
๑. การประเมินสภาวะแวดล้อม
(Context Evaluation: C)
๒.
การประเมินปัจจัยนำเข้า
(Input Evaluation: I)
๓.
การประเมินกระบวนการ
(Process Evaluation: P)
๔.
การประเมินผลผลิต
(Product Evaluation: P)
|
บรรณานุกรม
สุเทพ อ่วมเจิรญ. (๒๕๕๖). รายงานการวิจัย
การพัฒนาแบบจำลอง SU
Model: นวัตกรรมส่งเสริม การเรียนรู้วิศวกรรมหลักสูตร. ภาควิชาหลักสูตรและวิธีสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
_______. (๒๕๕๗).
การพัฒนาหลักสูตร: ทฤษฎีและการปฏิบัติ. นครปฐม: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร
วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ นครปฐม.
_______. (๒๕๕๗). การเรียนการสอน:
การออกแบบ นวัตกรรมและเทคโนโลยี. นครปฐม:
โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ นครปฐม.
Bigg J and Collis K. (1982). Evaluation
the Quality of Learning: the SOLO taxonomy. New York: Academic Press.
Daniel L. Stufflebeam (2007). Evaluation
Theory, Models, and Application. John Wiley and sons.
Bloom, Benjamin S. (1984). Taxonomy
of Education Objective: book 1 cognitive domain. New York: David Mckey.
Tyler, R.W. (1949). Basic
Principles of Curriculum and Instruction. Chicago: University of Chicago
Press.
.......................................................................................
โดย : นายสง่า วงค์ไชย รหัสนักศึกษา 57255911
สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน (กลุ่มการสอนภาษาไทย)
หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยศิลปากร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น